WHAT DOES รถบัสไฟไหม้ MEAN?

What Does รถบัสไฟไหม้ Mean?

What Does รถบัสไฟไหม้ Mean?

Blog Article

เปิดรายละเอียดประกันภัย เหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้

เช็กขั้นตอนเอาตัวรอดจาก "ไฟไหม้ในรถบัส"

บัญชีช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ กรณีไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษา ร.ร.วัดเขาพระยาสังฆาราม

ระยอง ทำให้เกิดกลุ่มควันสีขาวและสีดำปริมาณมาก

ที่น่าสงสัยคือ ต้องมีการตรวจสอบว่ารถบัสคันดังกล่าว มีการดัดแปลงนำรถเก่ามาใช้งานหรือไม่ เพราะรถบัสรุ่นเก่าไม่มีทางหนีไฟอย่างชัดเจน หรือบางครั้งมีก็ใช้งานไม่ได้ เนื่องจากมีสภาพเก่า ขณะที่อุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิต เช่น ค้อนทุบกระจก ถังดับเพลิง บนรถมีหรือไม่ และสามารถใช้งานได้ปกติหรือเปล่า

ตนเห็นครู และเด็กนักเรียนบางคนออกจากรถมาได้ บางส่วนยังติดอยู่ในรถ จึงได้มีการตะโกนถามว่าเปิดประตูมั้ย ซึ่งประตูเปิดอยู่ตนเห็นไฟโหมแรงมากจึงไม่กล้าเข้าไปจึงต้องถอยออกมา และไม่รู้เลยว่าข้างในรถมีเด็กติดอยู่จำนวนเท่าไหร่บ้าง

จากเหตุการณ์สลดที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ มีรถบัสนักเรียน โรงเรียนวัดเขาพระยา จังหวัดอุทัยธานี ที่กำลังเดินทางไปทัศนศึกษา ที่โรงไฟฟ้าบางกรวย จ.

การขนส่งสาธารณะในไทยมีจำกัด โดยเฉพาะเขตนอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร และการใช้รถไฟฟ้าก็มีราคาแพงมากสำหรับคนจนในเมือง แต่ที่น่าสนใจคือแม้แต่หัวเมืองตามภูมิภาคต่าง ๆ รถบัสไฟไหม้ ของไทย เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต อุดรธานี ก็ไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดี และบางแห่งไม่มีแม้แต่รถโดยสารประจำทางด้วยซ้ำ ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าบางแห่งไม่มีแม้แต่ระบบขนส่งระหว่างเมือง

ตรวจเช็กสภาพร่างกาย ว่าตนเองและคนอื่นที่หนีรอดออกมานั้นได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หากมีคนบาดเจ็บหนัก เช่น ายใจลำบากหรือเกิดอาการสำลักควันไฟ ถูกไฟลวกหรือหมดสติ ให้รีบขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ทันที

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางถนนชี้ว่า แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีการถอดบทเรียนทบทวนจากกรณีนี้ คือระบบการอพยพ หรือการจัดการเหตุฉุกเฉิน กรณีการเดินทางไปทัศนศึกษาของเด็กนักเรียน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว และหากมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ทีมงานไทยเกอร์จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง

ฟังเสียงต่างมุมยกเลิก "ทัศนศึกษา" เปิดโลกหรือความเสี่ยง

“เคสนี้ไม่ทราบว่าเกิดเพลิงไหม้ยังไง ช่วงนั้นได้ใช้อุปกรณ์ดับทันหรือไม่ หรือถังได้ถูกใช้หรือไม่ ถ้าดับไม่ได้ จะอพยพเด็กอย่างไรในรถที่สูงขนาดนี้ ถ้าไม่ถูกเตรียมพร้อมไว้ พอถึงสถานการณ์จริงอาจจะไม่สามารถปฏิบัติได้” นพ.

งานศึกษาระบุด้วยว่า โดยทั่วไปแล้วสาธารณชนไม่ได้กดดันให้นักการเมืองลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาความปลอดภัยบนท้องถนน และการอภิปรายถกเถียงเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยบนถนนก็ถูกลดทอนความสำคัญในทางการเมือง ตรงกันข้าม ผู้คนกลับเลือกโทษเหยื่อ หรือวัฒนธรรมไทย ๆ มากกว่าจะโทษความเพิกเฉยของรัฐบาล

Report this page